เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ นายกิตติ วะสีนนท์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง ในฐานะผู้แทนคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาและติดตามความร่วมมือในกรอบอาเซียนและความร่วมมือในระดับภูมิภาค พร้อมคณะ ประกอบด้วย
๑. คุณหญิงทรงสุดา ยอดมณี กรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ
๒. นายวุตติ วุตติสันต์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการ
๓. นางสาวสุภาสินี ขมะสุนทร ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการ
๔. นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อนุกรรมาธิการ
๕. ศาสตราจารย์ไชยวัฒน์ ค้ำชู อนุกรรมาธิการ
๖. พลตรี ทิฆัมพร ชุลีลัง อนุกรรมาธิการ
ได้เดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์วัฒนธรรมอาเซียนของกระทรวงวัฒนธรรมโดยมี นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมและเจ้าหน้าที่ได้ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ในการนี้ ได้เข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการกับ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
ณ ห้องออดิทอเรี่ยม หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้บรรยายสรุปเกี่ยวกับ
การดำเนินงานของศูนย์วัฒนธรรมอาเซียน และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับการแนวทางการผลักดันศูนย์วัฒนธรรมอาเซียนของกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีในการดำเนินความร่วมมือด้านสังคมและวัฒนธรรมระหว่างประเทศอาเซียน ให้เป็นศูนย์วัฒนธรรมของอาเซียน นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้ให้ข้อมูลว่า การดำเนินโครงการใด ๆ ที่
เกี่ยวกับเรื่องวัฒนธรรมจะต้องมีลักษณะเป็นการแบ่งปันโครงการระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนอย่างเท่าเทียมกัน และเนื่องจากการจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมของอาเซียนเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนและอาจต้องได้รับการสนับสนุนจากประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมด ดังนั้น อาจต้องมีการโน้มน้าวให้ประเทศสมาชิกอาเซียนเห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่เหมาะสมและเห็นควรมอบหมายให้ประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการหลักในการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว
ในชั้นนี้รับที่จะไปดำเนินการหาแนวทางความเป็นไปได้ และแนวทางที่มีความเหมาะสมเพื่อผลักดันในเรื่องนี้ต่อไป
นายกิตติ วะสีนนท์ ได้ให้ความเห็นว่า การจัดตั้งศูนย์วัฒนธรรมของอาเซียนอาจดำเนินการในลักษณะเป็นเครือข่ายเหมือนกับกรณีของ ASEAN University Network หรือเหมือนกับกรณีของศูนย์ SDGs ซึ่งประเทศไทยได้เสนอตัวและได้รับมอบหมายให้เป็น Country Coordinator
ในการนี้ ประเทศไทยอาจเสนอตัวเป็น Secretariat ทางด้านวัฒนธรรม โดยการดำเนินการต้องเป็นไป
อย่างแนบเนียนและค่อยเป็นค่อยไป